Sunday, June 21, 2020

คอลัมน์การเมือง - คำแถลงก่อตั้ง 'พรรคธรรมาประชาธิปไตย' - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

sumibar.blogspot.com

•นับตั้งแต่ การเปลี่ยนการปกครอง ๒๔๗๕

ที่คณะราษฎร หวังจะสถาปนาประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ขึ้นในสังคมไทย จวบมาถึงทุกวันนี้ เราประชาชนชาวไทย
ได้เห็น “ประชาธิปไตย เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและบ้านเมือง แล้วฤา”


การเปลี่ยนแปลง จากสิ่งหนึ่ง ไปสู่อีกสิ่งหนึ่งที่ดีกว่า

โดยธรรมชาติ มิใช่เรื่องง่าย แต่ เป็นเรื่องยาก เพราะเป็นการต่อสู้กัน ๒ ฝ่าย ระหว่าง “สิ่งเก่ากับสิ่งใหม่”อีกทั้งยังมี ตัวประกอบ ที่คงอยู่ในขณะนั้น อีกหลายปัจจัยทั้งที่อาจจะเห็นด้วย และคัดค้าน โดยเฉพาะในสังคมไทยที่มีด้อยคุณภาพ ทั้งของสังคม ระบบ โครงสร้าง และประชาชน

รวมทั้ง ปัจจัยของ “ผู้นำ” ที่มีทั้ง ลงมือทำเห็นด้วย คัดค้านและมีการเปลี่ยนแปลง จากเห็นด้วยมาคัดค้านหรือคัดค้าน แล้วมาเห็นด้วย ซึ่งสะท้อนถึง :ความเอาจริง “ความมีอุดมการณ์เพื่อส่วนรวม” หรือ“อคติเพื่อส่วนตัว”

ประเด็น ที่สังคมต้อง พิจารณาอย่างถ่องแท้ คือ “ระดับของผู้นำการเปลี่ยนแปลง”

เป็นผู้นำ ที่มีคุณสมบัติเป็น “รัฐบุรุษ มีวิสัยทัศน์ มองการณ์ไกล กล้าหาญเสียสละ”หรือเป็นผู้นำที่ดี แต่ไม่ถึงขั้นรัฐบุรุษ ซึ่งเป็นลักษณะของผู้นำของสังคมไทย ทั้งในอดีตและปัจจุบัน

รูปธรรมของผู้นำรัฐบุรุษ ที่เห็นเป็นแบบอย่างในระดับโลกคือ ความต้องการเปลี่ยนแปลงสูงสุด เพื่ออนาคต ของลูกหลาน ของประชาชนมีความรู้ ประสบการณ์ จากการทำงานที่เป็นจริง ใช้สติปัญญา คิดถึง

“แนวทาง ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี จังหวะก้าว ขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลง ไปสู่เป้าหมาย”

โดยการสร้างคุณภาพและกำลังการเปลี่ยนแปลงของตน และลดกำลังของฝ่ายตรงกันข้ามฯต้องมีการสะสมกำลังรอคอยโอกาสและการสร้างพัฒนา โอกาส ให้ไปถึงจุด
ของการเปลี่ยนแปลง โดยต้องรู้และเข้าใจ ดุลกำลังของแต่ละฝ่าย ฝ่ายเรา ฝ่ายเขา และฝ่ายเป็นกลาง

ต้องรู้จักและเข้าใจ ในเรื่องของงาน “แนวร่วม”

ที่สำคัญคือ โดยส่วนใหญ่ การเปลี่ยนแปลง มักจะนำเอาความคิด มาจาก “ต่างประเทศ” ซึ่งมิใช่เรื่องแปลกประหลาด เพราะส่วนใหญ่ของการเปลี่ยนแปลงมาจากการที่ผู้นำที่ไปศึกษาเรียนรู้ และได้เห็น การเปลี่ยนแปลง เพื่อผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ในสังคมนั้นๆ แล้วนำ
“ความคิด ทฤษฎี แนวทาง” ของเขา มาเปลี่ยนแปลงสังคมไทย

หัวใจใหญ่ คือ “จะต้องนำความคิดของเขา มาประสานเข้ากับสภาพรูปธรรมที่เป็นจริงของสังคมไทย” ซึ่งผู้นำของสังคมไทย ขาดในเรื่องนี้มาก ทำได้เพียงบางระดับเพราะ “ผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่จะทำได้ถึงขั้นนี้”มีแต่ “ผู้นำระดับรัฐบุรุษเท่านั้น” เพราะ ผู้นำรัฐบุรุษคิดและทำเพื่ออนาคต มิใช่เพียงเพื่อปัจจุบัน และยิ่งมิใช่ เพื่อตนเอง

จากวิกฤติของประเทศ และวิกฤติโควิด-19 ซึ่งก่อวิกฤติใหญ่ให้แก่ประชาชนและบ้านเมือง

เป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดของชาวโลกและชาวไทยที่กำลังจะเกิดขึ้นในปัจจุบัน และจะมีผลต่อเนื่องยาวนาน ที่ร้ายแรงในอนาคต หากไม่มีการเตรียมพร้อม การมีกลุ่มคนที่มีความคิดหลากหลาย มาร่วมคิดและร่วมทำ

ทำให้ “ผู้ที่มีอุดมคติ รักชาติรักประชาธิปไตย”

และเคยเข้าร่วมการต่อสู้ เพื่อการเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง จากหลากหลายฝ่ายผ่านทั้ง จากการรัฐประหาร และผ่านการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ตั้งแต่เหตุการณ์ ๑๔ ตุลาฯ จากบุคคลระดับผู้นำ ที่เคยอยู่ในระบบราชการ กองทัพฯ ผู้คน ที่เคยเข้าต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธในชนบท ผู้ที่เคยมีความคิดเห็นต่างกันในเรื่อง สีและแนวคิด ที่ยึดบุคคลเป็นสรณะ

พวกเรา ในนามของ พรรคธรรมาประชาธิปไตย ได้ประชุมปรึกษาหารือกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

โดยการตั้งโจทย์ว่า “ประเทศไทยจะรอดจากสถานการณ์วิกฤติที่ร้ายแรงนี้ได้อย่างไร”และระดมความคิดเห็น โดยวางหลักการที่สำคัญคือ ต้องใช้สติปัญญาความจริงนำอคติ ความคิด ความแค้น ความอิจฉา ไม่พอใจฯแล้ว ไล่กันเป็นที่ละประเด็น โต้เถียง วิพากษ์วิจารณ์กัน ด้วยความเคารพตนเอง และผู้อื่นฯ ผ่านไปหลายทิวาราตรี จากรุ่งอรุณยามเช้า ถึงกลางดึกดื่น แต่ละวัน โดยละทิ้ง เรื่องและผลประโยชน์ส่วนตัวออกไป โดยวางหลักว่า “ที่นี้มีแต่ เรื่องของบ้านเมือง” มีหลายคน เดินออกไป และมีบางส่วนเดินเข้ามาร่วมฯ

จนในที่สุด เราได้ข้อสรุปในเบื้องต้น ดังนี้

๑.จากผู้นำ ตั้งแต่อดีตมาถึงปัจจุบัน มีทั้งข้อดีและข้ออ่อน รวมทั้งมีความจำกัดทั้งบุคคลและสังคม เราคัดเลือก “ข้อดี และจุดแข็งมาใช้” และใช้ข้อไม่ดีผิดพลาด และจุดอ่อน เป็นบทเรียน”

๒.เราเห็นว่า “วิกฤติที่เกิดขึ้นมาอยู่ในปัจจุบัน” ผู้นำทุกยุคทุกฝ่าย มีส่วนร่วมในการสร้างขึ้นมา บางรัฐบาล มีเรื่องดี มีจุดแข็งไม่น้อย แต่มีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ส่วนตนจึงเกิดผลเสียฯ

๓.เราจะเริ่มต้น จากความเป็นจริงของสังคมไทย ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน ศึกษาเรียนรู้ ทำกันอย่าง “เอาจริง” แล้วสรุปบทเรียนไป ในขณะที่ ก็สร้างกำลัง ความคิด สติปัญญา ผู้คน มวลชนที่หลากหลาย ไปพร้อมกัน

๔.เราจะเริ่มต้น ด้วยหลักการ ที่ไม่ตำหนิหรือกล่าวหา บุคคล คณะบุคคล หรือรัฐบาลใด เพื่อยกตัวเองและคณะของเราให้สูงขึ้น เพราะเราจะเริ่มสร้าง “พรรคของเรา” ด้วย ความคิด สติปัญญา ความจริงของเรา

๕.เราจะจัดประชุม เชิงปฏิบัติการ โดยเชิญ พรรค บุคคล ที่มีความรู้ความสามารถและมีอุดมคติ มาร่วมกันคิด
ทั้งการเข้ามาร่วมงานกับพรรคเรา หรือ การสร้าง เป็น “แนวร่วม”

๖.เราจะร่วมมือกับ ทุกฝ่าย ทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน นายทุน นักวิชาการ สื่อ มวลชนฯ ซึ่งแน่นอนว่า “มีทั้งเรื่องที่เห็นด้วย และเห็นต่าง” อันเป็นความจริงในสังคมในส่วนที่เห็นด้วย เราก็จะส่งเสริมสนับสนุน โดยไม่ติดยึดว่า “เป็นผลงานของใคร” ในส่วนที่เห็นต่างฯ เราจะเสนอความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์

๗.หัวใจสำคัญ คือ การสร้างระบบ โครงสร้าง การเมือง สังคมเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และประชาชนที่มีคุณภาพ ความเสมอภาค มีอิสระ มีส่วนร่วม มีธรรมาภิบาลและคุณธรรม

เราต้องใช้เวลา ไม่ว่าจะนานเท่าใด เราก็จะคิดและทำ อย่าง “เอาจริง” เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย หากคนรุ่นเรา ทำไม่สำเร็จ เราจะส่งผลงาน ให้กับคนรุ่นต่อไป

ด้วยรักเคารพ และเชื่อมั่น พลังสติปัญญา และเอาจริงของประชาชนที่มีคุณธรรม

พรรคธรรมาประชาธิปไตย

๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๓

Let's block ads! (Why?)



"โดยธรรมชาติ" - Google News
June 22, 2020 at 02:00AM
https://ift.tt/2zPLkiT

คอลัมน์การเมือง - คำแถลงก่อตั้ง 'พรรคธรรมาประชาธิปไตย' - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
"โดยธรรมชาติ" - Google News
https://ift.tt/3cniaVt
Share:

0 Comments:

Post a Comment